ภาษีเงินได้นิติบุคคลกับรายจ่ายต้องห้าม: สิ่งที่นิติบุคคลต้องรู้
- Thanuwat Khumkainam
- 30 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที

รายจ่ายต้องห้ามคืออะไร? ทำความเข้าใจนิยามและหลักการ
รายจ่ายต้องห้าม ตามประมวลรัษฎากร หมายถึง รายจ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจการของนิติบุคคลตามหลักการทางบัญชี แต่ในทางภาษีอากร กฎหมายไม่อนุญาตให้นำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีรายจ่ายเหล่านี้จะต้องถูก "บวกกลับ" เข้าไปในกำไรสุทธิทางบัญชี เพื่อให้ได้มาซึ่งกำไรสุทธิทางภาษีที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งจะต้องระบุในแบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด.50 บทบัญญัติหลักที่เกี่ยวข้องกับรายจ่ายต้องห้ามนี้คือ มาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร
ผลกระทบของรายจ่ายต้องห้ามต่อการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
อธิบายหลักการ "บวกกลับ"
เมื่อนิติบุคคลมี รายจ่ายต้องห้าม เกิดขึ้น รายจ่ายเหล่านั้นจะไม่ถูกนำมาหักออกจากรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิทางภาษี 4 แต่จะถูก "บวกกลับ" เข้าไปในกำไรสุทธิที่คำนวณได้ตามหลักการบัญชี ซึ่งหมายความว่า กำไรสุทธิทางบัญชีจะถูกปรับเพิ่มขึ้นด้วยจำนวนของรายจ่ายต้องห้ามเหล่านั้น เพื่อให้ได้ "กำไรสุทธิทางภาษี" ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล 4 หลักการนี้มีขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่า เฉพาะรายจ่ายที่กฎหมายภาษีกำหนดว่ามีความจำเป็นและเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริงเท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้ลดหย่อนภาระภาษีของบริษัทได้
ตัวอย่างการคำนวณกำไรสุทธิทางภาษีที่ได้รับผลกระทบ
สมมติว่า บริษัท A ซึ่งเป็นธุรกิจ SME มีกำไรสุทธิทางบัญชีจำนวน 300,000 บาท ในรอบระยะเวลาบัญชีหนึ่ง และมี รายจ่ายต้องห้าม ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานจำนวน 100,000 บาท (เช่น เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้บริหารที่ไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบของบริษัท)
การคำนวณกำไรสุทธิทางภาษีจะเป็นดังนี้
กำไรสุทธิทางบัญชี: 300,000 บาท
บวกกลับรายจ่ายต้องห้าม: + 100,000 บาท
กำไรสุทธิทางภาษี: 400,000 บาท
จากนั้น นำกำไรสุทธิทางภาษี 400,000 บาท ไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับ SME
กำไรสุทธิ 300,000 บาทแรก: ได้รับการยกเว้นภาษี (0%)
กำไรสุทธิส่วนที่เกิน 300,000 บาท (400,000 - 300,000 = 100,000 บาท): เสียภาษีในอัตราร้อยละ 15
ภาษีที่ต้องชำระ: 100,000 บาท x 15% = 15,000 บาท
หากบริษัท A ไม่มีรายจ่ายต้องห้าม 100,000 บาทนี้ กำไรสุทธิทางภาษีก็จะเท่ากับกำไรสุทธิทางบัญชีที่ 300,000 บาท ซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษีทั้งหมด ทำให้บริษัทไม่ต้องเสียภาษีเลย การมีรายจ่ายต้องห้าม 100,000 บาทนี้จึงทำให้บริษัทต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นถึง 15,000 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบทางการเงินโดยตรงและมีนัยสำคัญ
ประเภทของรายจ่ายต้องห้ามที่พบบ่อย
ตารางสรุปประเภทรายจ่ายต้องห้ามและเหตุผลโดยย่อ
ประเภทรายจ่ายต้องห้าม | เหตุผลโดยย่อ | มาตรา 65 ตรี (ถ้ามี) |
---|---|---|
รายจ่ายส่วนตัวและรายจ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ | ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไรหรือประโยชน์ของกิจการโดยเฉพาะ | 13 |
รายจ่ายเพื่อการรับรองที่เกินกำหนด | เกินกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด (ต่อคน, ต่อรายได้รวม) | 4 |
เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าปรับทางภาษี | เป็นบทลงโทษ ไม่ใช่รายจ่ายในการดำเนินธุรกิจ | 6 |
รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน | เป็นการเพิ่มมูลค่าหรือยืดอายุทรัพย์สิน ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายปกติ | 5 |
เงินสำรองต่างๆ | เป็นการตั้งสำรอง ไม่ใช่รายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน (มีข้อยกเว้น) | 1, 1.1-1.3 |
ภาษีซื้อบางประเภทที่ไม่สามารถนำมาหักได้ | ไม่สามารถนำมาเครดิตภาษีได้ตามกฎหมาย VAT | - (อ้างอิง ม.82/5) |
รายจ่ายที่พิสูจน์ผู้รับไม่ได้ | ไม่มีหลักฐานยืนยันการจ่ายเงินและผู้รับที่ชัดเจน | 18 |
รายจ่ายอื่นๆ ที่กำหนดจ่ายจากผลกำไร | ไม่ใช่รายจ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ แต่ขึ้นอยู่กับผลกำไร | 19 |
เงินเดือน/ค่าตอบแทนผู้ถือหุ้น/หุ้นส่วนที่เกินสมควร | ถือเป็นการจ่ายคืนทุนหรือผลประโยชน์ส่วนตัว | 8 |
ดอกเบี้ยเงินทุนสำรองหรือเงินกองทุนของตนเอง | ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่จ่ายให้บุคคลภายนอก | 11 |
ค่าสึกหรอหรือค่าเสื่อมราคาทรัพยากรธรรมชาติ | ไม่มีเกณฑ์ชัดเจนในการประเมินมูลค่าที่สูญเสียไป | 16 |
ค่าเสียหายจากการลดมูลค่าทรัพย์สิน | เป็นการปรับปรุงทางบัญชี ยังไม่เกิดการขายจริง | 17 |
รายจ่ายที่สำนักงานใหญ่เรียกเก็บจากสาขาในไทย (บางกรณี) | ต้องพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องและไม่ซ้ำซ้อน | 14 |
แนวทางการจัดการรายจ่ายต้องห้ามเพื่อลดความเสี่ยงทางภาษี
การจัดการรายจ่ายต้องห้ามอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดความเสี่ยงทางภาษีและป้องกันปัญหาจากการตรวจสอบของกรมสรรพากร
การจัดทำเอกสารหลักฐานที่ถูกต้องครบถ้วน
เอกสารหลักฐานที่แข็งแกร่งเป็นแนวป้องกันแรกที่สำคัญสุด ต้องจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่ใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จ แต่รวมถึง
หลักฐานการจ่ายเงิน (ใบสำคัญจ่าย)
สัญญา
บันทึกภายในอธิบายวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ
หลักฐานพิสูจน์ตัวผู้รับเงินอย่างชัดเจน
หลักการสำคัญ "บันทึกทุกสิ่ง" - ภาระการพิสูจน์อยู่ที่ผู้เสียภาษี แม้รายจ่ายเล็กน้อยที่ไม่มีเอกสารก็อาจกระตุ้นการตรวจสอบ
การกำหนดระเบียบและนโยบายภายในองค์กร
ระเบียบภายในที่เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเบิกค่าใช้จ่ายผู้บริหารและค่ารับรอง เป็นกลยุทธ์สำคัญลดความเสี่ยงทางภาษี
ประโยชน์
สร้างกรอบการปฏิบัติงานที่ชัดเจน
ลดความคลุมเครือ
เปลี่ยนรายจ่าย "ส่วนตัว" ให้เป็น "สวัสดิการ" หรือ "ธุรกิจ" ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตัวอย่าง: กำหนดค่าน้ำมันรถผู้บริหารหรือเงินช่วยเหลือพนักงานในงานศพเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการพนักงาน วางแผนโครงสร้างค่าตอบแทนและสวัสดิการให้มีประสิทธิภาพทางภาษี โดยความร่วมมือระหว่างฝ่าย HR และการเงิน
ความสำคัญของการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี
กฎหมายภาษีมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การตีความอาจคลุมเครือ โดยเฉพาะประเด็น "เกินสมควร" หรือ "ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อธุรกิจ"
ผู้เชี่ยวชาญช่วยได้
ให้คำแนะนำเหมาะสมกับลักษณะธุรกิจ
ตีความความคลุมเครือของกฎหมาย
นำทางในกระบวนการตรวจสอบภาษี
ให้บริบทและตัวอย่างจากคดีก่อนหน้า
วางแผนเชิงกลยุทธ์และประเมินความเสี่ยง
การลงทุนคุ้มค่า: ค่าที่ปรึกษาไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุนป้องกันความเสียหายทางการเงินที่สำคัญและสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติตามกฎหมายระยะยาว
FAQ
รายจ่ายต้องห้าม คืออะไร?
รายจ่ายต้องห้าม คือ รายจ่ายที่ธุรกิจได้จ่ายออกไปจริงและบันทึกในบัญชีบริษัท แต่กฎหมายภาษีไม่อนุญาตให้นำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล รายจ่ายเหล่านี้ต้องถูกบวกกลับเข้าไปในกำไรทางบัญชี เพื่อให้ได้กำไรสุทธิทางภาษีที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีจริง
ทำไมถึงต้องมีรายจ่ายต้องห้าม ในเมื่อเป็นค่าใช้จ่ายจริงของกิจการ?
เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำรายจ่ายบางประเภทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจหรือมีลักษณะส่วนตัวมาใช้ลดภาระภาษี และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี
หากมีรายจ่ายต้องห้าม ธุรกิจจะต้องทำอย่างไรในการคำนวณภาษี?
ต้องนำรายจ่ายต้องห้ามบวกกลับเข้าไปในกำไรทางบัญชี เพื่อให้ได้กำไรสุทธิทางภาษีซึ่งใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องจ่าย
ตัวอย่างของรายจ่ายต้องห้ามที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง?
รายจ่ายส่วนตัว, ค่ารับรองเกินกำหนด, เบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภาษี, ภาษีซื้อต้องห้าม, รายจ่ายที่พิสูจน์ผู้รับไม่ได้, รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน
จะป้องกันไม่ให้มีรายจ่ายต้องห้ามได้อย่างไร?
ควรจัดทำเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน, กำหนดนโยบายภายในเกี่ยวกับการเบิกจ่าย และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอย่างสม่ำเสมอ