ใบกำกับภาษี คืออะไร มีกี่ประเภท และมีอะไรบนใบกำกับภาษีบ้าง
- Thanuwat Khumkainam
- 4 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
ใบกำกับภาษี คืออะไร?
ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) คือ เอกสารสำคัญที่ผู้ขายหรือผู้ให้บริการซึ่งจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ต้องออกให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการทุกครั้งที่มีการขายสินค้าและบริการ ใบกำกับภาษีออกเพื่อแสดงมูลค่าสินค้าหรือบริการและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อแต่ละครั้ง โดยทั่วไปจะออกใบกำกับภาษีทันทีหลังการขายเสร็จสิ้น ยกเว้นในกรณีที่ขายซ้ำหลายครั้งภายในวันเดียวกัน ก็สามารถรวบรวมจัดทำในใบเดียวได้ ใบกำกับภาษีจึงเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้บันทึกรายรับ-รายจ่ายและคำนวณภาษีของกิจการอย่างถูกต้อง โปร่งใส ใบกำกับภาษีต้นฉบับจึงต้องเก็บรักษาไว้อย่างเป็นระบบเพื่อใช้เป็นหลักฐานทางบัญชีและภาษีได้

ประเภทของใบกำกับภาษี
กรมสรรพากรแบ่งประเภทของเอกสารภาษีมูลค่าเพิ่มออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่
ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ
ใบเพิ่มหนี้
ใบลดหนี้
ใบเสร็จรับเงินที่ส่วนราชการออกให้ในการขายทอดตลาด
ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่ออกให้สำหรับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม
ใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกากร หรือกรมสรรพสามิตออกให้ในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติมักให้ความสำคัญกับ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ และ ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปและแบบย่อมีข้อแตกต่างกันด้านการใช้งาน โดยใบกำกับภาษีเต็มรูปนั้นถือเป็นหลักฐานสำคัญสำหรับการหักภาษีซื้อในแบบ ภ.พ.30 ขณะที่ใบกำกับภาษีอย่างย่อไม่สามารถใช้เป็นภาษีซื้อได้ นอกจากนี้ ใบกำกับภาษีอย่างย่อมักออกกับการขายปลีกให้ผู้บริโภค เช่น ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร หรือโรงหนัง เป็นต้น ส่วนใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปจะออกให้แก่ผู้ซื้อที่ต้องการนำไปใช้เป็นหลักฐานภาษีซื้อ (เช่น ธุรกิจอื่นที่ซื้อต่อ) โดยต้องระบุข้อมูลผู้ขายและผู้ซื้อครบถ้วนตามกฎหมาย

ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
ใบกำกับภาษีอย่างย่อ เป็นหลักฐานการขายสินค้า/บริการที่ออกให้แก่ลูกค้าทั่วไป (ผู้บริโภค) โดยไม่ระบุรายการชัดเจนครบถ้วนเท่าใบเต็มรูป มักใช้ในกิจการค้าปลีกหรือให้บริการแก่บุคคลทั่วไป เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ที่สินค้าหรือบริการที่ซื้อไปนำไปใช้เอง กิจการเหล่านี้สามารถออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้โดยไม่ต้องขออนุมัติกับกรมสรรพากรล่วงหน้า (หลังจากที่กฎหมายผ่อนปรนเงื่อนไข) ใบกำกับภาษีอย่างย่อจึงเน้นให้ข้อมูลสรุปง่ายๆ เช่น ชื่อผู้ขาย, เลขประจำตัว 13 หลัก, ราคาสินค้ารวม VAT แล้ว และรายละเอียดที่สรุปพอสังเขป
ใบกำกับภาษีเต็มรูป
ใบกำกับภาษีเต็มรูป (Tax Invoice แบบเต็มรูป) เป็นเอกสารหลักฐานที่ผู้ขายจดทะเบียน VAT ต้องออกให้สำหรับธุรกรรมการขายสินค้า/บริการ เพื่อแสดงมูลค่าก่อนภาษีและภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างละเอียด ใบกำกับภาษีเต็มรูปโดยทั่วไปจะออกให้กับลูกค้าที่เป็นธุรกิจ นำสินค้า/บริการไปขายต่อหรือใช้เป็นต้นทุนธุรกิจ โดยจะระบุรายละเอียดครบถ้วนทั้งชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขาย รวมถึงข้อมูลผู้ซื้อ (ถ้ามี) การออกใบเต็มรูปนี้เป็นข้อกำหนดทางกฎหมาย ซึ่งช่วยให้การคำนวณภาษีขาย (output tax) และภาษีซื้อ (input tax) ของกิจการเป็นไปอย่างถูกต้อง
องค์ประกอบที่ต้องมีบนใบกำกับภาษี
ใบกำกับภาษีเต็มรูปและอย่างย่อจะต้องมีข้อมูลหลักตามที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
คำว่า “ใบกำกับภาษี” หรือ “ใบกำกับภาษีอย่างย่อ” ในตำแหน่งชัดเจน
ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ขาย
ชื่อ ที่อยู่ และ (ถ้ามี) เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ (ระบุในใบกำกับภาษีเต็มรูปเท่านั้น)
หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี (และเล่มใบกำกับภาษีหากมี)
รายละเอียดสินค้า/บริการ ได้แก่ ชื่อ ชนิด ปริมาณ ราคา และมูลค่ารวม
จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้า/บริการ (แยกตัวเลขภาษีออกจากมูลค่ารวม)
วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
ข้อความอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด (เช่น หมายเหตุชุดเอกสารต้นฉบับ)
ข้อกำหนดของกรมสรรพากรที่เกี่ยวข้อง
ผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้อง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้าทุกครั้งที่ขายสินค้า/บริการ การออกใบกำกับภาษีมีระยะเวลาตามกฎหมายกำหนดว่า ในกรณีขายสินค้า ต้องออกใบกำกับภาษีทันทีที่สินค้าถึงลูกค้า ส่วนกรณีให้บริการ ให้จัดทำใบกำกับภาษีในวันรับชำระเงิน นอกจากนี้ กรมสรรพากรได้สนับสนุนให้จัดทำ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ซึ่งมีผลตามกฎหมายเทียบเท่าใบกระดาษ โดยผู้ขายต้องขออนุญาตออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์และลงลายมือชื่อดิจิทัล. ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะต้องประกอบด้วยข้อมูลครบถ้วนเหมือนใบกระดาษ เช่น คำว่า “ใบกำกับภาษี”, ชื่อ-ที่อยู่-เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขาย ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบความถูกต้องและจัดเก็บข้อมูลได้ตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ การใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บเอกสาร
การใช้ใบกำกับภาษีในการบันทึกบัญชีและขอคืนภาษี
ใบกำกับภาษีเป็นหลักฐานสำคัญในการบันทึกรายการขายและซื้อของกิจการ ทำให้การจัดทำบัญชีถูกต้องครบถ้วน. ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการคำนวณภาษีขายและภาษีซื้อ เพื่อนำยื่นแบบ ภ.พ.30 ได้ ขณะที่ใบกำกับภาษีอย่างย่อไม่สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานภาษีซื้อสำหรับหักภาษีขายได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรออกใบกำกับภาษีเต็มรูปให้ลูกค้าที่จะนำไปใช้เป็นหลักฐานภาษีซื้อ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีต้นฉบับไว้อย่างเป็นระบบเพื่อใช้ประกอบการยื่นภาษีและตรวจสอบในอนาคต.
ผู้ประกอบการควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกรายละเอียดบนใบกำกับภาษีถูกต้อง เช่น ชื่อ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ (กรณีต้องการนำใบไปขอคืนภาษี) และเก็บรักษาเอกสารต้นฉบับพร้อมสำเนาอย่างเป็นระเบียบ เพื่อรองรับการตรวจสอบของสรรพากรและใช้ในการทำบัญชีอย่างครบถ้วน. การจัดทำใบกำกับภาษีให้ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงจากการถูกปรับ และทำให้สามารถนำค่าภาษีซื้อมาหักกับภาษีขายได้ตามสิทธิอย่างเต็มที่
FAQ
ใบกำกับภาษีคืออะไร?
ใบกำกับภาษีคือเอกสารที่ผู้ประกอบการออกให้เมื่อมีการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งใช้เพื่อแสดงมูลค่าของภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่เกิดจากรายการขายนั้น และผู้ซื้อสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานในการขอเครดิตภาษีได้หากเป็นกิจการจด VAT
ใบกำกับภาษีมีกี่ประเภท?
ใบกำกับภาษีมี 2 ประเภทหลัก คือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป (Full Tax Invoice) และ ใบกำกับภาษีอย่างย่อ (Abbreviated Tax Invoice) ซึ่งแต่ละประเภทมีการใช้งานและรายการที่แสดงแตกต่างกันไปตามลักษณะของธุรกรรม
ในใบกำกับภาษีควรมีข้อมูลอะไรบ้าง?
ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปต้องประกอบด้วยข้อมูล เช่น ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขายและผู้ซื้อ, รายละเอียดสินค้า/บริการ, จำนวนเงินก่อนและหลังภาษี, อัตรา VAT, เลขที่ใบกำกับภาษี และวันเดือนปีที่ออกใบกำกับ
ใบกำกับภาษีต่างจากใบเสร็จรับเงินอย่างไร?
ใบกำกับภาษีเน้นแสดงภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อใช้ในการขอเครดิตภาษี ขณะที่ใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานการชำระเงิน ซึ่งอาจไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ VAT หากไม่ได้ระบุไว้
ผู้ประกอบการที่ไม่ได้จด VAT ต้องออกใบกำกับภาษีหรือไม่?
หากไม่ได้จดทะเบียน VAT ผู้ประกอบการไม่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษีที่มี VAT ได้ โดยสามารถออกใบเสร็จหรือบิลเงินสดแทน แต่ห้ามใช้คำว่า 'ใบกำกับภาษี' ในเอกสาร
หากคุณมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับการออกหรือรับ ใบกำกับภาษี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประเภท รายการที่ต้องมี หรือการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอย่างถูกต้อง สามารถติดต่อ iACC Professional ได้ทันที เรายินดีให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณในทุกขั้นตอน เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ติดต่อเราได้ที่โทร: 086-345-0265
อีเมล: sirinya.iacc@gmail.com