ภาษีธุรกิจเฉพาะคืออะไร? สิ่งที่คุณควรรู้
- Thanuwat Khumkainam
- 1 ธ.ค. 2567
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 9 มิ.ย.

table of content
ภาษีธุรกิจเฉพาะคืออะไร?
ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นภาษีที่จัดเก็บจากกิจการเฉพาะบางประเภทในประเทศไทย แทนภาษีการค้าที่ถูกยกเลิก โดยเริ่มบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2535 พร้อมกับการเริ่มต้นใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนี้มุ่งเน้นการเก็บรายได้จากกิจการที่มีลักษณะเฉพาะหรือมีเงื่อนไขเฉพาะที่กฎหมายกำหนดไว้
ใครบ้างที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ?
ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่
บุคคลธรรมดา
คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
กองมรดก
ห้างหุ้นส่วนสามัญ
กองทุน
องค์กรของรัฐบาล สหกรณ์ และนิติบุคคลอื่นที่กฎหมายกำหนด
หากผู้ประกอบกิจการอยู่นอกราชอาณาจักร บุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย เช่น ตัวแทน หรือผู้รับมอบอำนาจ จะต้องรับผิดชอบในการเสียภาษีด้วย
กิจการประเภทใดที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ?
ตัวอย่างกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่
การธนาคาร ตามกฎหมายธนาคารพาณิชย์
ธุรกิจเงินทุนและเครดิตฟองซิเอร์
การรับประกันชีวิต
การจำนำในโรงรับจำนำ
การขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อหากำไร
ธุรกิจแฟ็กเตอริง
กิจการอื่นๆ อาจถูกเพิ่มเข้ามาภายใต้กฎหมายหรือพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้อง
อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะคำนวณจาก ฐานภาษี ซึ่งหมายถึงรายรับก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยอัตราภาษีขึ้นอยู่กับประเภทของกิจการ และยังต้องเสียภาษีท้องถิ่นเพิ่มเติมอีก 10% ของจำนวนภาษีธุรกิจเฉพาะ

หน้าที่ของผู้ประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
จดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
ยื่นคำขอจดทะเบียนภายใน 30 วันหลังเริ่มกิจการ
ใช้แบบฟอร์ม ภ.ธ.01
ยื่นแบบแสดงรายการภาษี
ยื่นแบบ ภ.ธ.40 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
ยื่นรายงานทุกเดือน แม้ไม่มีรายรับในเดือนนั้น
จัดทำรายงานและเก็บรักษาเอกสาร
รายงานรายรับและเอกสารที่เกี่ยวข้องต้องเก็บรักษาไว้อย่างน้อย 5 ปี
ออกใบรับเงิน
หากได้รับเงินเกิน 100 บาท ต้องออกใบรับเงินให้ผู้ชำระเงิน
การขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ
ผู้ที่ชำระภาษีเกินหรือผิด สามารถขอคืนได้โดยยื่นคำร้องแบบ ค.10 พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ภายใน 3 ปีหลังจากหมดเขตยื่นแบบแสดงรายการ
ภาษีธุรกิจเฉพาะถือเป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญที่เจ้าของกิจการต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียน ยื่นแบบแสดงรายการ หรือการเก็บรักษาเอกสารอย่างเหมาะสม การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายภาษีจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและบริหารกิจการได้อย่างราบรื่น
หากคุณต้องการคำปรึกษาด้านภาษี iACC Professional พร้อมให้คำแนะนำและบริการด้านภาษีอย่างครบวงจร ติดต่อเราได้ที่ www.iaccprofessional.com หรือโทร 086-345-0265
FAQ
หลักเกณฑ์การจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ มีอะไรบ้าง?
ผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ จะต้องจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะโดยยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามแบบคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.01) ภายใน 30 วันนับแต่วันเริ่มประกอบกิจการ ตามมาตรา 91/12 แห่งประมวลรัษฎากร
การยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.01) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำอย่างไร?
ผู้ประกอบกิจการสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.01) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะภายใน 30 วันนับแต่วันเริ่มประกอบกิจการและไม่ต้องแนบเอกสารหลักฐาน โดยมีขั้นตอนดังนี้
www.rd.go.th > เลือกเมนู บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล > ภาษีธุรกิจเฉพาะ > หัวข้อ การจดทะเบียน/สมัคร/ขออนุมัติ > ระบบบริการจดทะเบียน > บริการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ > ยื่นแบบขอจดทะเบียน ภ.ธ.01 โดยให้ถือเป็นการยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะได้อีกวิธีหนึ่ง ตามประกาศอธิบดีฯ ภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ 9) ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนนับแต่วันที่ยื่นคำขอ
กรณีบุคคลธรรมดาขายที่ดินจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอย่างไร?
การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้นถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไร ตามมาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งฐานภาษีสำหรับกิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร คือ รายรับก่อนหักรายจ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยใช้ราคาที่ได้รับ หรือ ราคาตามหนังสือสัญญาขายที่ดินหรือราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งเป็นราคาที่ใช้อยู่ในวันที่มีการโอนแล้วแต่อย่างใดจะสูงกว่า ตามข้อ 6(1)-(2) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.82/2542ฯ
การซื้อขายที่ดินหากเป็นการขายที่ดินที่ติดจำนอง การคำนวณยอดรายรับจากการขายที่ดินซึ่งจะใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะต้องรวมภาระจำนองที่ติดกับทรัพย์ด้วยหรือไม่?
กรณีที่เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ติดจำนอง ให้คำนวณยอดรายรับจากการขายอสังหาริมทรัพย์รวมกับภาระจำนองที่ติดกับทรัพย์ด้วย ตามข้อ 6(3) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.82/2542ฯ
กิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีอะไรบ้าง?
กิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2 แห่งประมวลรัษฎากร ได้แก่
1. การธนาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์หรือกฎหมายเฉพาะ
2. การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจฟองซิเอร์
3. การรับประกันชีวิต ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต
4. การรับจำนำ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงรับจำนำ
5. การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ เช่น การให้กู้ยืมเงิน ค้ำประกัน แลกเปลี่ยนเงินตรา ซื้อหรือขายตั๋วเงิน หรือรับส่งเงินไปต่างประเทศด้วยวิธีต่าง ๆ
6. การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นจะได้มาโดยวิธีใดก็ตาม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ.2541
7. การขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในตลาดหลักทรัพย์
8. การประกอบกิจการอื่น ตามกำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
(1) กิจการซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 350) พ.ศ.2542
(2) การประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริง ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 358) พ.ศ.2542
องค์ประกอบของผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีอะไรบ้าง?
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการดังต่อไปนี้
1. เป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือนิติบุคคล
2. ประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
3. ประกอบกิจการในราชอาณาจักร
ในกรณีผู้ประกอบกิจการอยู่นอกราชอาณาจักร ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการประกอบกิจการ รวมตลอดถึงลูกจ้าง ตัวแทนหรือผู้ทำการแทน ซึ่งมีอำนาจในการจัดการแทนโดยตรงหรือโดยปริยายที่อยู่ในราชอาณาจักรเป็นผู้มีหน้าที่ในการเสียภาษีร่วมกับบุคคลผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/7 แห่งประมวลรัษฎากร