นิติบุคคลจะทำอย่างไร เมื่อลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลาง
- Thanuwat Khumkainam
- 29 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 1 ก.ค.
ความสำคัญของค่าส่วนกลางและผลกระทบเมื่อลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลาง
ค่าส่วนกลาง คือค่าใช้จ่ายที่เจ้าของร่วมในโครงการที่อยู่อาศัยต้องรับผิดชอบตามสัดส่วนกรรมสิทธิ์ร่วม เพื่อนำไปบริหารจัดการ ดูแลทรัพย์ส่วนกลาง และรักษาสาธารณูปโภคให้โครงการมีความเรียบร้อย ปลอดภัย และน่าอยู่อาศัย เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำไฟ และค่าซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ หากมีเจ้าของร่วมไม่ชำระค่าส่วนกลางจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของงบประมาณ การดูแลรักษาจะขาดประสิทธิภาพ ทรัพย์สินส่วนกลางเสื่อมโทรม ระบบรักษาความปลอดภัยอ่อนแอ และมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในโครงการลดลง กระทบต่อผู้อยู่อาศัยทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่จ่ายเงินตรงเวลา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นิติบุคคลต้องมีมาตรการที่เข้มงวดในการจัดเก็บและบังคับใช้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชุมชนโดยรวม

หน้าที่ตามกฎหมายของเจ้าของร่วม
เจ้าของร่วมมีหน้าที่ตามกฎหมายในการชำระค่าส่วนกลางตามอัตราส่วนกรรมสิทธิ์ของตน ไม่สามารถอ้างเหตุผลส่วนตัวเพื่อปฏิเสธการชำระได้ กฎหมายให้อำนาจแก่นิติบุคคลทั้งในคอนโดมิเนียม (ตาม พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ. 2522) และหมู่บ้านจัดสรร (ตาม พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2558) ในการเรียกเก็บค่าส่วนกลาง พร้อมบทลงโทษหากค้างชำระ เช่น การคิดดอกเบี้ย การระงับสิทธิ์ใช้ทรัพย์ส่วนกลาง และการไม่ออกใบปลอดหนี้ นอกจากนี้ นิติบุคคลยังมี "บุริมสิทธิ" เหนือทรัพย์สินของผู้ค้างชำระ ทำให้สามารถเรียกหนี้ได้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่น ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการสำคัญเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและประโยชน์ส่วนรวมของชุมชน
บทลงโทษเมื่อไม่จ่ายค่าส่วนกลาง: นิติบุคคลอาคารชุด vs นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร
คอนโดมิเนียม (ตาม พ.ร.บ. อาคารชุด)
ค้างชำระไม่เกิน 6 เดือน เสียเงินเพิ่มไม่เกิน 12% ต่อปีของยอดที่ค้าง
ค้างชำระตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป เสียเงินเพิ่มไม่เกิน 20% ต่อปี, อาจถูกระงับการใช้บริการส่วนกลาง, และนิติบุคคลจะไม่ "ออกใบปลอดหนี้" ทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์หรือขายได้
หมู่บ้านจัดสรร (ตาม พ.ร.บ. จัดสรรที่ดิน)
ค้างชำระ: เสียค่าปรับ 10-15% ของยอดที่ต้องชำระพร้อมดอกเบี้ย
ค้างชำระตั้งแต่ 3 เดือน: อาจถูกระงับการใช้บริการหรือพื้นที่ส่วนกลาง
ค้างชำระตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป: นิติบุคคลมีอำนาจระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (โอนกรรมสิทธิ์ซื้อขายไม่ได้)
อายุความในการฟ้องร้องค่าส่วนกลาง
นิติบุคคลต้องเร่งติดตามหนี้ค่าส่วนกลางภายในอายุความ 5 ปี หากปล่อยให้เกินจะสูญเสียสิทธิในการเรียกเก็บ ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของโครงการ และอาจทำให้ผู้จัดการหรือคณะกรรมการต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญาในกรณีที่เพิกเฉยหรือละเลยหน้าที่ โดยเฉพาะหากมีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้บางราย การติดตามหนี้อย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของนิติบุคคลและลดความเสี่ยงทางกฎหมาย
ไม่ว่าจะเป็นคอนโดหรือหมู่บ้านจัดสรร อายุความในการฟ้องร้องเรียกเก็บค่าส่วนกลางคือ 5 ปี นับจากวันที่ถึงกำหนดชำระ ซึ่งนิติบุคคลจะต้องดำเนินการภายในกรอบเวลานี้
การดำเนินการของนิติบุคคลเมื่อลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลาง
เมื่อลูกบ้านไม่ชำระค่าส่วนกลาง นิติบุคคลควรดำเนินการเป็นขั้นตอน เริ่มจากการส่งหนังสือทวงถาม แจ้งยอดหนี้ ดอกเบี้ย และค่าปรับ พร้อมหลักฐานการส่ง หากยังไม่ชำระ อาจใช้มาตรการเบื้องต้น เช่น ระงับสิทธิการใช้พื้นที่ส่วนกลาง หรือไม่ออกใบปลอดหนี้เพื่อขัดขวางการโอนกรรมสิทธิ์ หากยังไม่ได้ผล อาจเข้าสู่ขั้นตอนฟ้องร้อง โดยต้องรวบรวมเอกสารครบถ้วนและปรึกษาทนาย ความเสียหายจากการฟ้องอาจสูงกว่ายอดหนี้ จึงควรระบุไว้ในข้อบังคับให้นำค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้ไปเรียกคืนจากเจ้าของร่วมผู้ค้างชำระได้ และหากศาลตัดสินแล้วไม่ชำระ นิติบุคคลสามารถบังคับคดี ยึดทรัพย์ และขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ได้ การบริหารหนี้อย่างรัดกุมและถูกต้องตามกฎหมายจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของชุมชน
การรักษาสิทธิและหน้าที่เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนในโครงการ
การที่ลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลางเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการบริหารจัดการโครงการและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยทุกคน. นิติบุคคลในฐานะผู้ดูแลทรัพย์ส่วนกลางและผู้บริหารชุมชน มีเครื่องมือทางกฎหมายที่ชัดเจน ทั้งบทลงโทษและมาตรการบังคับใช้ที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติอาคารชุดและพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน เพื่อจัดการกับปัญหานี้. สิ่งสำคัญคือนิติบุคคลต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และใช้มาตรการที่เหมาะสมตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้หนี้ค้างชำระขาดอายุความและส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของโครงการ
การป้องกันปัญหาการไม่ชำระค่าส่วนกลางที่ดีที่สุดคือการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ลูกบ้านเกี่ยวกับความสำคัญของค่าส่วนกลาง และบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส การสื่อสารที่ชัดเจน การวางแผนงบประมาณที่รัดกุม การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการและติดตามหนี้ รวมถึงการปรับปรุงข้อบังคับให้ครอบคลุม จะช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจและลดข้อโต้แย้ง การจ่ายค่าส่วนกลางเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้โครงการได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ มีไฟฟ้าส่องสว่าง มีสวนหย่อมและถนนที่น่ามอง มีการจัดเก็บขยะที่ตรงเวลา และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับการใช้ชีวิตร่วมกัน การรักษาสิทธิและหน้าที่ในการชำระค่าส่วนกลางจึงเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพในโครงการที่อยู่อาศัย
FAQ
ค่าส่วนกลางคืออะไร?
ค่าส่วนกลาง คือค่าใช้จ่ายที่นิติบุคคลของโครงการที่อยู่อาศัยเรียกเก็บจากเจ้าของร่วมทุกคน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการโครงการ การบำรุงรักษาทรัพย์ส่วนกลาง และการให้บริการสาธารณูปโภคต่างๆ
ผลกระทบเมื่อลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลางคืออะไร?
การไม่ชำระค่าส่วนกลางส่งผลกระทบต่อทั้งโครงการและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยทุกคน เช่น งบประมาณในการดูแลรักษาโครงการจะขาดสภาพคล่อง ทรัพย์สินส่วนกลางอาจชำรุดทรุดโทรม และระบบรักษาความปลอดภัยอาจเกิดความบกพร่อง
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บค่าส่วนกลางมีอะไรบ้าง?
กฎหมายไทยได้กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของร่วมในการชำระค่าส่วนกลางไว้อย่างชัดเจน เช่น พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558
บทลงโทษเมื่อลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลางมีอะไรบ้าง?
บทลงโทษเมื่อลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลางมีหลายระดับ เช่น เสียเงินเพิ่ม, ไม่มีสิทธิออกเสียงในการประชุมใหญ่, อาจถูกระงับการใช้บริการส่วนรวมหรือทรัพย์ส่วนกลาง และอาจถูกส่งเรื่องดำเนินการทางกฎหมาย
ขั้นตอนการดำเนินการของนิติบุคคลเมื่อลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลางมีอะไรบ้าง?
ขั้นตอนการดำเนินการของนิติบุคคลเมื่อลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลางมีหลายขั้นตอน เช่น การแจ้งเตือนและทวงถามหนี้, การระงับการใช้บริการและทรัพย์ส่วนกลาง, การไม่ออก 'ใบปลอดหนี้', และการดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อบังคับชำระหนี้